top of page

STAFF UNIT

BLOOD STATUS

สายเลือดแต่ล่ะตระกูลหรือบ้าน (House) มีค่าสถานะทางสังคมตามยศหรือที่เขาเรียกกันว่าสถานะทางสายเลือด ซึ่งจะไล่จากพวก Low Born ไป High Born หรือ จาก Bronze Blood - Iron Blood - Silver Blood - Gold Blood - Platinum Blood

ซึ่งสถานะบ้านใหญ่ หรือ ตระกูลหลัก โดยปกติแล้วจะเป็นพวก High Born คือ Platinum หรือ Gold ส่วนพวกที่ตระกูลรองลงมาซึ่งเข้าสวามิภักดิ์กับทางตระกูลหลักอีกทีจะเป็นพวก Iron หรือ Silver การเรียนการสอนในสถาบันไม่ได้มีแค่การสอนวิชาทั่วไป แต่มีการแข่งขันสูง ทั้งด้านการเรียนกิจกรรมและอื่นๆ นั้นก็เผื่อเป็นการเพิ่มสถานะตระกูลตนเอง ซึ่งในรร.จะพูดกันว่า'ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น' แต่จริงๆแล้วแค่เป็นคำพูดสวยหรูเท่านั้น สถาณการ์ณ์จริงๆจะมีการแบ่งแยกค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้จะมีการยอมรับและเข้าถึงได้ระหว่างชนชั้นในวิชาเรียนก็ตามที่

เนื่องจากรร.จะฝึกตั้งแต่มารยาทไปจนถึงอื่นๆอีกมากมาย ทำให้หลายๆครั้งตระกูล Low Born เองก็ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิ์เลื่อนขั้นสถานะตระกูลตนเองเลย

LOW BORN 

HIGH BORN 

PLATINUM BLOOD

SILVER

BLOOD

BRONZE

BLOOD

GOLD

BLOOD

IRON

BLOOD

HOUSES

บ้าน หรือ ตระกูล สกุลของนักศึกษาในสถาบันถือมีความสำคัญมากและมักจะถูกเรียกกันเต็มยศด้วยชื่อตระกูลประกอบด้วยตำแหน่งเสมอ เช่น Lady Unah of House Ladover เป็นต้น มีทั้งตระกูลหลักและตระกูลรองซึ่งทั้งมีอำนาจเกือกูลกันและไม่ถูกกัน ว่ากันว่าใน EU และ UK นั้นมีเพียงตระกูลหลักที่มีเลือดชั้นสูง (Platinum Blood) เพียงแค่ไม่กี่ตระกูลเท่านั้น

ใน Universe นี้เนื่องจากเซ็ตติ้งของสถาบันจะอยู่คาบเส้นระหว่างอังกฤษและสก็อตแลนด์ ทำให้ตระกูลส่วนใหญ่มาจาก อังกฤษ สก็อนแลนด์ ไอร์แลนด์ เวลส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตระกูลจากแดนไกลเช่นตระกูลชาวอิตาลี่ สเปน เยอรมัน หรือ รัสเซียก็มีเช่นกัน ตระกูลเหล่านี้ที่มาจากแดนไกลหากเป็นตระกูล High-born จะถือว่าเป็น Gold Blood เท่านั้นไม่ใช่ Platinum 
 

โดยปกติแล้วบ้านใหญ่จะมีบ้านรองสวามิภักดิ์ต่อตนเอง (และยิ่งบ้านที่มียศสูงมากเท่าไหร่ยิ่งมีผู้สวามิภักดิ์เยอะ การกระทำเหล่านี้คือการ Sworn Odd ยกตัวอย่างเช่น บ้าน Ladover มีบ้าน Moon และ บ้าน Whitewillow เป็นตระกูลรองในอำนาจเป็นต้น 

ซึ่งแต่ล่ะบ้านต้องแข่งขันกันเอง ทำให้ในสถาบันการแข่งขันสูงมากในเกือบทุกด้าน พวก Duke หรือ Lord ของแต่ล่ะบ้านนั้นจะ treat เหล่าเด็กๆของตนเองเหมือนหมากกระดานที่ต้องเล่นไปให้จบเกม การขึ้นลงของสถานะบ้านหรือคะแนนของแคลนในรร.มีผลแต่สถาณการณ์ภายนอกของตระกูล นักศึกษาจึงได้รับความกดดันสูงแต่ส่วนมากทุกคนถูกฝึกมาให้ทนต่อความกดดันนั้นได้ ไม่มีมิตรแท้ในโรงเรียน มีแต่ศัตรูเท่านั้น

 

(ประมาณ Game of Thrones ที่บ้านรองต้องขึ้นตรงกับบ้านหลัก และมีบางบ้านที่มีอำนาจมากกว่าเป็นต้น)

HIGH BORN 

PLATINUM BLOOD

SILVER

BLOOD

BRONZE

BLOOD

LOW BORN 

GOLD

BLOOD

IRON

BLOOD

HOUSES

บ้าน หรือ ตระกูล สกุลของนักศึกษาในสถาบันถือมีความสำคัญมากและมักจะถูกเรียกกันเต็มยศด้วยชื่อตระกูลประกอบด้วยตำแหน่งเสมอ เช่น Lady Unah of House Ladover เป็นต้น มีทั้งตระกูลหลักและตระกูลรองซึ่งทั้งมีอำนาจเกือกูลกันและไม่ถูกกัน ว่ากันว่าใน EU และ UK นั้นมีเพียงตระกูลหลักที่มีเลือดชั้นสูง (Platinum Blood) เพียงแค่ไม่กี่ตระกูลเท่านั้น

ใน Universe นี้เนื่องจากเซ็ตติ้งของสถาบันจะอยู่คาบเส้นระหว่างอังกฤษและสก็อตแลนด์ ทำให้ตระกูลส่วนใหญ่มาจาก อังกฤษ สก็อนแลนด์ ไอร์แลนด์ เวลส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตระกูลจากแดนไกลเช่นตระกูลชาวอิตาลี่ สเปน เยอรมัน หรือ รัสเซียก็มีเช่นกัน ตระกูลเหล่านี้ที่มาจากแดนไกลหากเป็นตระกูล High-born จะถือว่าเป็น Gold Blood เท่านั้นไม่ใช่ Platinum 
 

โดยปกติแล้วบ้านใหญ่จะมีบ้านรองสวามิภักดิ์ต่อตนเอง (และยิ่งบ้านที่มียศสูงมากเท่าไหร่ยิ่งมีผู้สวามิภักดิ์เยอะ การกระทำเหล่านี้คือการ Sworn Odd ยกตัวอย่างเช่น บ้าน Ladover มีบ้าน Moon และ บ้าน Whitewillow เป็นตระกูลรองในอำนาจเป็นต้น 

ซึ่งแต่ล่ะบ้านต้องแข่งขันกันเอง ทำให้ในสถาบันการแข่งขันสูงมากในเกือบทุกด้าน พวก Duke หรือ Lord ของแต่ล่ะบ้านนั้นจะ treat เหล่าเด็กๆของตนเองเหมือนหมากกระดานที่ต้องเล่นไปให้จบเกม การขึ้นลงของสถานะบ้านหรือคะแนนของแคลนในรร.มีผลแต่สถาณการณ์ภายนอกของตระกูล นักศึกษาจึงได้รับความกดดันสูงแต่ส่วนมากทุกคนถูกฝึกมาให้ทนต่อความกดดันนั้นได้ ไม่มีมิตรแท้ในโรงเรียน มีแต่ศัตรูเท่านั้น

 

(ประมาณ Game of Thrones ที่บ้านรองต้องขึ้นตรงกับบ้านหลัก และมีบางบ้านที่มีอำนาจมากกว่าเป็นต้น)

WARDEN & WARDENESS


Wards คือเหล่าลูกหลานของตระกูลรองที่ถูกส่งให้เข้ามาอยู่ในการดูแลของตระกูลหลัก โดยที่ลอร์ดหรือเลดี้นั้นถือว่ามีศักด์เป็นพ่อ/แม่ทูลหัวของพวกวาร์ดทันที Ward เหล่านี้สามารถมีได้ตั้งแต่สายเลือด Gold Blood ถึง Bronze Blood แต่ Platinum Blood จะไม่มีทางเป็น Ward เด็ดขาด วาร์ดส่วนใหญ่จะได้รับหน้าที่การทำงานหรือภารกิจอะไรบางอย่างจากทางตระกูลหลัก เช่นสนับสนุน Young lord ของตระกูลหลัก หรือเป็น Sworn Shield ของ Young Lady เป็นต้น ตระกูลรองต่างๆมักจะส่งลูกหลานของตัวเองเข้ามาเพื่อผลประโยชน์เพราะหากว่าตระกูลหลักได้รับการเลื่อนขั้นตระกูลรองก็จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย

ส่วนมากตัวตระกูลรองจะส่งลูกหลานไปเป็นวาร์ดเพียง 1 ถึง 2 ตระกูล และตระกูลอีกตระกูลหนึ่งที่ส่งไปจะต้องเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลักที่ตนภักดิ์ดีด้วย แต่ในบางครั้งกฎควรกระทำพวกนี้ก็มีการแหกกันบ้างเพื่อผลประโยชน์สูงสุด 

** การแย่ง Wardeness วาร์ดที่เป็นสตรีจะถูกเรียกว่าวาร์เดนเนส ส่วนมากจะส่งเผื่อไปเป็นขุนนางหรือนางในภายภาคหน้า หรือแม้แต่ส่งไปดูตัวในกรณีเพื่อการมั่นหมายในอนาคต ซึ่งในบางครั้งเกิดการแย่งวาร์ดเดนเนสเกิดขึ้นเช่นกันและนั้นหมายถึงสงครามจนาดย่อมระหว่างบ้านเลยทีเดียว

BASTARD

 

Mud Blood เลือดสีโคลน


บัสตาร์ดคือลูกหลานของตระกูลที่เกิดนอกสมรส ทำให้ไม่มีสายเลือดที่ถูกต้องถึงแม้จะเป็นสานเลือดของตระกูลชั้นสูงแบบ Platinum ก็ตามที บัสตาร์ดนั้นจะไม่ได้รับนามสกุลของทางตระกูล แต่จะถูกเรียนนามสกุลด้วยสถานที่เกิด เช่น ถ้าเกิดในเมืองสก็อตแลนด์บริเวณที่ราบสูงจะใช้ชื่อเขตพื้นที่นั้น หรือชื่อปราสาทที่ใกล้ที่สุด และจะถูกเรียกโดยบัสตาร์ดเป็นคำนำหน้าเช่น Bastard Emrys Lochaber of House Morgone เป็นต้น

บัสตาร์ดมักจะได้รับการดูถูกจากพวกสายเลือดหลัก แต่สามารถเข้ากันได้ดีกับพวกวาร์ด แต่ทางหอพักนั้นพวกบัสตาร์ดจะถูดจัดแยกออกมาไม่อยู่หอเดียวกันกับพวกเลือดปกติ พวกบัสตาร์จะอยู่ในหอรักษาการข้างนอก หรือ House of Warden นั้นเอง (แต่ก่อนถูกเรียกว่า House of Bustard แต่ดีนคิดว่ามันไม่สุภาพเลยเปลี่ยนมาเป็น House of Warden) 

บัสตาร์ด สามารถ legitimized ได้ต่อเมื่อกษัตริย์หรือราชินีประเทศตนเองเป็นผู้ Legitimized เท่านั้น แม้กระทั้งตระกูลหลักก็ยังไม่มีสิทธิ์นี้

ASSEMBLAGE OF STAFF

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินมีประวัติยาวนาน

ได้รับความไว้วางใจจากสังคมให้เป็นสถานที่แข่งขันระหว่างตระกูล ปัจจุบันได้รับการดูแลโดยผู้อำนวยการ หรือ

Dean รุ่นที่ 17 Marquess Ercan Q. Tarquin of House Bloodworth ซึ่งอายุร่วม 40 ปีแล้ว

โดยที่สถาบันถือ Mottos ประจำใจคือ "To The Crown and Beyond"

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินนั้นแบ่งภาคการศึกษาเป็น 4 ภาคการศึกษา(Semester) และ จะมี พักปิดภาคการศึกษา(Year Break) 1 ครั้งในช่วงฤดูร้อน และ วันหยุดยาวตอนจบปีการศึกษา (Holidays) ในช่วง Christmas ส่วน Prom ของโรงเรียนจะถูกจัดขึ้น 2 ครั้ง คือในช่วงต้นปีการศึกษา (Crowncoming) และท้ายปีการศึกษา (Yule Ball)

League of Honor  หรือการแข่งขันประจำปีที่จะมีทุกเดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนธันวาคมจะเกิดขึ้นระหว่างนักศึกษา Yr 12 ที่กำลังจะจบการศึกษา มันคือโอกาสวัดชะตาครั้งสุดท้ายก่อนกลับไปสู่โลกภายนอก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันลีคส่วนมากคือนร.ที่มีลำดับ 1-50 เท่านั้น การแข่งขันลีคนั้นมีในหลายๆด้านตามรายวิชาของตน

ACADEMIC STAFF

THE WATCH DOG

“ We Howl - We Hunt ”

 

ทหารยามพิเศษเฝ้าอยู่เพื่อพิทักษ์รักษาเหล่าสายเลือดของขุนนางและราชวงศ์ และในขณะเดียวกันพวกเขาคือหน่วยกองกำลังที่มีหน้าที่ปราบปรามความไม่สงบในสถาบันด้วยเช่นกัน

 

The Watch Dog หรือที่เรียกแสลงกันติดปากว่า ‘The Hound’



 





 

The Hound นั้นเปรียบเสมือนกับ Executioner หรือ เพชรฆาต/ผู้คุมกฎ พวกเขามีอำนาจในการใช้กำลังต่อต้านทุกการเคลื่อนไหวที่จะส่อไปถึงอันตรายต่อเหล่าสายเลือดขุนนางและราชวงศ์ซึ่งอยู่ในสถาบัน เนื่องจากหลังเหตุการณ์ [วิกฤตเลือดศรวิษฐา] มีพวกสามัญชนจำนวนมากไม่พอใจต่อเหล่าผู้มีสถานะทางสายเลือด ทำให้มักจะมีการจราจลและการบุกจู่โจมนักศึกษาของทางสถาบันอยู่บ้างในช่วงเวลากลางคืน The Watch Dog จึงมีอยู่เผื่อการนั้น แต่ในขณะเดียวกัน The Watch Dog เองก็เป็นตำแหน่งเดียวในสถาบัน ที่สามารถใช้กำลังกับนักศึกษาได้ เผื่อยับยั้งในกรณีที่มีการทะเลาะวิวาท การลอบทำร้าย และ สถาณการณ์ขับขันที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ถูกหวาดกลัวทั้งจากพวกสามัญชนภายนอกและเป็นที่น่าเกรงขามต่อเหล่านักศึกษาของสถาบัน

 

โดยที่ปกตินั้น ตัว Watch Dog จะทำการลาดตระเวนอยู่รอบๆพื้นที่สถาบัน รวมถึงในบริเวณข้างเคียงเช่นเมืองคราวน์ด้านล่างของเนินเขาที่สถาบันตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน การแต่งตัวของพวกเขาไม่ตายตัวแต่มักจะมีเสื้อสวมใส่ที่รัดกุมและคล่องตัว The Watch Dog จะแต่งกายด้วยชุดสีดำล้วน (สามารถใช้สีน้ำตาลปะปนได้เล็กน้อย) และมีผ้าคลุมไหล่หนึ่งด้านเสมอ พวกเขาพกอาวุธติดตัวคือปืนและดาบ  

The Watch Dog นั้นมักเคยเป็นบุคลากรทางทหาร ตำรวจ หรือผู้ที่เคยชินกับการต่อสู้และการใช้อาวุธ มีทักษะในการล่า นอกจากนี้ The Watch Dog นั้นไม่รับสมัครผู้ที่มีสถานะทางสายเลือด เกินกว่า Iron Blood ขึ้นไป และพวกเขาจะพักอยู่ที่ House of Warden รวมอยู่กับพวกบัสตาร์ด และ อายุต้องมากกว่า 25 ปีขึ้นไป

 

The Watch Dog จะมีม้าลาดตระเวนประจำตัว บังคับเป็นม้าสีดำ และ จะมีหมาล่าเนื้อของตนเอง 2 ตัว ในการติดตาม ซึ่งหมาล่าเนื้อของ The Watch Dog สามารถแบ่งสุนัขกลุ่มนี้ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ Sight Hound กับ Scent Hound

  • Sight hound จะสามารถมองเห็นเหยื่อได้จากระยะไกลและไล่ล่า เหยื่อจนเหยื่ออ่อนเพลีย

  • Scent hound จะสามารถขุดค้นพบเหยื่อโดยการ ดมกลิ่น

  • สุนัขหลายพันธุ์ใน 2 กลุ่มนี้มักจะถูกนำไปวิ่งแข่งเนื่องจาก ความสามารถที่พิเศษสุดในสุนัขกลุ่มนี้คือความเร็วในการวิ่งซึ่งสามารถวิ่งด้วย ความเร็วถึง 35 ไมล์/ชม

จำนวน Watch Dog มีด้วยกันทั้งหมด 20 คน The Watch Dog แบ่งอณาเขตลาดตระเวนทั้งหมด 4 เขต คือ NORTH - EAST - SOUTH - WEST หรือตามทิศรอบๆสถาบัน และ แต่ล่ะเขตจะมีผู้ดูแลซึ่งเป็นหัวหน้าติดยศ [Beta] รวมทั้งหมด 24 คน และ ผู้ติดยศ [Alpha] อีกหนึ่งคน

สามารถดูแบบฟอร์มการสมัคร The Watch Dog ได้ที่นี่

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินมีประวัติยาวนาน

ได้รับความไว้วางใจจากสังคมให้เป็นสถานที่แข่งขันระหว่างตระกูล ปัจจุบันได้รับการดูแลโดยผู้อำนวยการ หรือ

Dean รุ่นที่ 17 Marquess Ercan Q. Tarquin of House Bloodworth ซึ่งอายุร่วม 40 ปีแล้ว

โดยที่สถาบันถือ Mottos ประจำใจคือ "To The Crown and Beyond"

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินนั้นแบ่งภาคการศึกษาเป็น 4 ภาคการศึกษา(Semester) และ จะมี พักปิดภาคการศึกษา(Year Break) 1 ครั้งในช่วงฤดูร้อน และ วันหยุดยาวตอนจบปีการศึกษา (Holidays) ในช่วง Christmas ส่วน Prom ของโรงเรียนจะถูกจัดขึ้น 2 ครั้ง คือในช่วงต้นปีการศึกษา (Crowncoming) และท้ายปีการศึกษา (Yule Ball)

League of Honor  หรือการแข่งขันประจำปีที่จะมีทุกเดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนธันวาคมจะเกิดขึ้นระหว่างนักศึกษา Yr 12 ที่กำลังจะจบการศึกษา มันคือโอกาสวัดชะตาครั้งสุดท้ายก่อนกลับไปสู่โลกภายนอก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันลีคส่วนมากคือนร.ที่มีลำดับ 1-50 เท่านั้น การแข่งขันลีคนั้นมีในหลายๆด้านตามรายวิชาของตน

PERSONNEL

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินมีประวัติยาวนาน

ได้รับความไว้วางใจจากสังคมให้เป็นสถานที่แข่งขันระหว่างตระกูล ปัจจุบันได้รับการดูแลโดยผู้อำนวยการ หรือ

Dean รุ่นที่ 17 Marquess Ercan Q. Tarquin of House Bloodworth ซึ่งอายุร่วม 40 ปีแล้ว

โดยที่สถาบันถือ Mottos ประจำใจคือ "To The Crown and Beyond"

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินนั้นแบ่งภาคการศึกษาเป็น 4 ภาคการศึกษา(Semester) และ จะมี พักปิดภาคการศึกษา(Year Break) 1 ครั้งในช่วงฤดูร้อน และ วันหยุดยาวตอนจบปีการศึกษา (Holidays) ในช่วง Christmas ส่วน Prom ของโรงเรียนจะถูกจัดขึ้น 2 ครั้ง คือในช่วงต้นปีการศึกษา (Crowncoming) และท้ายปีการศึกษา (Yule Ball)

League of Honor  หรือการแข่งขันประจำปีที่จะมีทุกเดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนธันวาคมจะเกิดขึ้นระหว่างนักศึกษา Yr 12 ที่กำลังจะจบการศึกษา มันคือโอกาสวัดชะตาครั้งสุดท้ายก่อนกลับไปสู่โลกภายนอก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันลีคส่วนมากคือนร.ที่มีลำดับ 1-50 เท่านั้น การแข่งขันลีคนั้นมีในหลายๆด้านตามรายวิชาของตน

ASSEMBLAGE OF STAFF

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์ลินน์มีประวัติยาวนานและมีบุคลากรชั้นนำจากทั่วทวีปเข้ามาทำงาน ทางสถาบันนำโดย

ผู้อำนวยการ หรือ Dean รุ่นที่ 17 Marquess Ercan Q. Tarquin of House Bloodworth และ เลขานุการ Viscount Wallace of House Franklin ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้อำนวยการ หรือ Dean รุ่นที่ 16 คนก่อน Count Nicholai of House Franklin

โดยที่สถาบันโดยรวมนั้นมีบุคคลากรหลายรูปแบบ ตั้งแต่ศาสตราจารย์ บุคลากรทั่วไป ทหารยามทั่วไป และ วอซด็อค นอกจากนี้แล้วเหล่าชาวเมืองในเมืองข้างเคียงอย่าง Crown's Town ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในการดูแลของรัฐและทางสถาบันยังถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่อำนวยความสะดวกต่อนักศึกษาในสถาบันด้วยเช่นกัน

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์รินแต่ล่ะตำแหน่งจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป แต่ล่ะตำแหน่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน ซึ่งท่านสามารถดูรายชื่อบุคลากรต่างๆได้จากข้อมูลต่อไปนี้

ACADEMIC STAFF

ตำแหน่งอาจารย์และศาสตราจารย์ในสถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์ลินน์ถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ โดยที่อาจารย์และศาสตราจารย์ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่มีสถานะทางสายเลือด และเป็นผู้ที่มีความถนัดในด้านวิชาของตน 

สถาบันการศึกษาคราวน์เบอร์ลินน์มีทั้งการสอนวิชาสามัญและวิชาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นวิชาเฉพาะและวิชาเลือก เพื่อให้นักศึกษามีความสามารถและความรู้ที่เฉพาะทางต่างจากการศึกษาของสถาบันอื่นๆ และนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้มีศาสตราจารย์จากหลากหลายประเทศ

วิชาเฉพาะส่วนมากจะแบ่งไปตามสายการเรียนต่างๆ คือ King of Diamond (วชิระราชันย์), Queen of Heart (ดวงหฤทัยราชินี), Ace of Spade (ขุนนางสีนิล) และ Jack of Club (ภาคีอัศวิน)

ซึ่งแต่ล่ะสายมีหัวหน้าภาควิชาของตนอยู่

ผู้ดูแลภาควิชาวชิระราชันย์ คือ Duke Lark Perseus Casswallawn

ผู้ดูแลภาควิชาดวงหฤทัยราชินี คือ Countess Eloise Love

ผู้ดูแลภาควิชาขุนนางสีนิล คือ Fürstin Alberine N. Drayce

ผู้ดูแลภาควิชาภาคีอัศวิน Marchioness Jacinda H. Bloodworth

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์และศาสตราจารย์จากวิชาใด นักศึกษาควรเคารพซึ่งตัวผู้สอนไม่ว่าตัวผู้สอนจะมีสายเลือดต่ำหรือสูงกว่าตนเอง เนื่องจากอาจารย์และศาสตราจารย์นั้นถือเป็นผู้ให้ความรู้

ผู้สมัครสามารถดูฟอร์มประวัติได้จากลิงค์ด้านล่างนี้​

PERSONNEL

นอกจากบุคลากรทางการศึกษาแล้ว ทางสถาบันยังมีบุคลากรอื่นๆด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายของนักศึกษา บุคลากรของสถาบันเองจึงถือเป็นบุคลากรที่มีคุญค่า ซึ่งตำแหน่งบุคลากรจะมีตั้งแต่ บรรณารักษ์ห้องสมุดขาว  บรรณารักษ์ห้องสมุดดำ หัวหน้าพ่อครัวและผู้ดูแลโภชนาการ  หัวหน้าเมด หัวหน้าบัดเลอร์  ผู้ดูแลหอพักชาย ผู้ดูแลหอพักหญิง และ อื่นๆอีกมากมาย

ถึงแม้บุคลากรส่วนใหญ่ของทางสถาบันนั้นจะไม่มีสถานะทางสายเลือด หรือ มีสถานะทางสายเลือดที่ไม่สูงมาก แต่นักศึกษาเองก็ควรจะให้ความเคารพต่อพวกเขาเช่นกัน

ผู้สมัครสามารถดูฟอร์มประวัติได้จากลิงค์ด้านล่างนี้​

THE WATCH DOG

“ We Howl - We Hunt ”

 

ทหารยามพิเศษเฝ้าอยู่เพื่อพิทักษ์รักษาเหล่าสายเลือดของขุนนางและราชวงศ์ และในขณะเดียวกันพวกเขาคือหน่วยกองกำลังที่มีหน้าที่ปราบปรามความไม่สงบในสถาบันด้วยเช่นกัน

 

The Watch Dog หรือที่เรียกแสลงกันติดปากว่า ‘The Hound’



 





 

The Hound นั้นเปรียบเสมือนกับ Executioner หรือ เพชรฆาต/ผู้คุมกฎ พวกเขามีอำนาจในการใช้กำลังต่อต้านทุกการเคลื่อนไหวที่จะส่อไปถึงอันตรายต่อเหล่าสายเลือดขุนนางและราชวงศ์ซึ่งอยู่ในสถาบัน เนื่องจากหลังเหตุการณ์ [วิกฤตเลือดศรวิษฐา] มีพวกสามัญชนจำนวนมากไม่พอใจต่อเหล่าผู้มีสถานะทางสายเลือด ทำให้มักจะมีการจราจลและการบุกจู่โจมนักศึกษาของทางสถาบันอยู่บ้างในช่วงเวลากลางคืน The Watch Dog จึงมีอยู่เผื่อการนั้น แต่ในขณะเดียวกัน The Watch Dog เองก็เป็นตำแหน่งเดียวในสถาบัน ที่สามารถใช้กำลังกับนักศึกษาได้ เผื่อยับยั้งในกรณีที่มีการทะเลาะวิวาท การลอบทำร้าย และ สถาณการณ์ขับขันที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ถูกหวาดกลัวทั้งจากพวกสามัญชนภายนอกและเป็นที่น่าเกรงขามต่อเหล่านักศึกษาของสถาบัน

 

โดยที่ปกตินั้น ตัว Watch Dog จะทำการลาดตระเวนอยู่รอบๆพื้นที่สถาบัน รวมถึงในบริเวณข้างเคียงเช่นเมืองคราวน์ด้านล่างของเนินเขาที่สถาบันตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน การแต่งตัวของพวกเขาไม่ตายตัวแต่มักจะมีเสื้อสวมใส่ที่รัดกุมและคล่องตัว The Watch Dog จะแต่งกายด้วยชุดสีดำล้วน (สามารถใช้สีน้ำตาลปะปนได้เล็กน้อย) และมีผ้าคลุมไหล่หนึ่งด้านเสมอ พวกเขาพกอาวุธติดตัวคือปืนและดาบ  

The Watch Dog นั้นมักเคยเป็นบุคลากรทางทหาร ตำรวจ หรือผู้ที่เคยชินกับการต่อสู้และการใช้อาวุธ มีทักษะในการล่า นอกจากนี้ The Watch Dog นั้นไม่รับสมัครผู้ที่มีสถานะทางสายเลือด เกินกว่า Iron Blood ขึ้นไป และพวกเขาจะพักอยู่ที่ House of Warden รวมอยู่กับพวกบัสตาร์ด และ อายุต้องมากกว่า 25 ปีขึ้นไป

 

The Watch Dog จะมีม้าลาดตระเวนประจำตัว บังคับเป็นม้าสีดำ และ จะมีหมาล่าเนื้อของตนเอง 2 ตัว ในการติดตาม ซึ่งหมาล่าเนื้อของ The Watch Dog สามารถแบ่งสุนัขกลุ่มนี้ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ Sight Hound กับ Scent Hound

  • Sight hound จะสามารถมองเห็นเหยื่อได้จากระยะไกลและไล่ล่า เหยื่อจนเหยื่ออ่อนเพลีย

  • Scent hound จะสามารถขุดค้นพบเหยื่อโดยการ ดมกลิ่น

  • สุนัขหลายพันธุ์ใน 2 กลุ่มนี้มักจะถูกนำไปวิ่งแข่งเนื่องจาก ความสามารถที่พิเศษสุดในสุนัขกลุ่มนี้คือความเร็วในการวิ่งซึ่งสามารถวิ่งด้วย ความเร็วถึง 35 ไมล์/ชม

จำนวน Watch Dog มีด้วยกันทั้งหมด 20 คน The Watch Dog แบ่งอณาเขตลาดตระเวนทั้งหมด 4 เขต คือ NORTH - EAST - SOUTH - WEST หรือตามทิศรอบๆสถาบัน และ แต่ล่ะเขตจะมีผู้ดูแลซึ่งเป็นหัวหน้าติดยศ [Beta] รวมทั้งหมด 24 คน และ ผู้ติดยศ [Alpha] อีกหนึ่งคน

สามารถดูแบบฟอร์มการสมัคร The Watch Dog ได้ที่นี่

TOWNFOLK

ในเมืองข้างเคียงซึ่งอยู่ในการดูแลของรัฐและสถาบันคราวน์เบอร์ลินน์นั้น ชาวเมือง Crown's Town นั้นเองก็เป็นผู้คนที่สำคัญต่อบริบทเช่นกัน ซึ่งผู้คนในเมืองนั้นมักจะเปิดร้านและการบริการบางอย่างซึ่งเกื้อกูลกันกับทางสถาบัน โดยที่ส่วนมากผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองนั้นจะเป็นชาวเมืองที่ไม่มีสถานะทางสายเลือดหรือ Commonner นั้นเอง

ซึ่งอาชีพของชาวเมืองนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ ร้านช่างประดิษฐ์เครื่องราชอิสริยยศ ช่างทำรองเท้า ช่างทำน้ำหอม ไปจนถึง ร้านขายอุปกรณ์ล่าสัตว์และช่างทำอาวุธ และอีกมากมาย 

ซึ่งตัวละครพิเศษ ประเภท "Townfolk” หรือชาวเมืองซึ่งอยู่อาศัยในบริเวณ Crown's Town ใกล้เคียงทางสถานบันนั้นจะถือเป็น “กึ่ง NPC” และถือเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางสายเลือดกลุ่มเดียวในโปรเจ็ค เดิมทีแล้วกลุ่มคนในโปรเจ็คที่สามารถเป็น Commonner ได้นั้นมีเพียง Townfolk (ชาวเมือง Crown's town) และ Personel (บุคลากร) เท่านั้น

ผู้สมัครสามารถดูฟอร์มประวัติได้จากลิงค์ด้านล่างนี้​

Trivia & Others

นอกจากตำแหน่งข้างต้นแล้วทางสถาบันยังมีตำแหน่งอื่นๆอีกมากมายด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีบางตำแหน่งที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง เช่นทหารยามทั่วไป ฝ่ายเอกสาร ฝ่ายคลัง ผู้ดูแลสวน และอื่นๆอีกมากมาย ต่อไปนี้จะเป็นตำแหน่งที่นักศึกษาสามารถนำไปกล่าวถึงได้ในเชิงของบริบทของสถาบัน

The Gate Keeper

Gate Keeper หรือ ผู้รักษาประตู เป็นตำแหน่งที่คล้ายคลึงกับ Watchdog แต่ในทางกลับกันเขากับมีหน้าที่ประจำตำแหน่ง โดยที่ตัวเขาจะอยู่ในหน้าที่ระหว่าง ทหารยามทั่วไปกับวอซด็อค ผู้รักษาประตูนั้นจะประจำอยู่ที่ประตูทางเข้าและประตูทางออกใหญ่ของทางสถาบัน พวกเขาถูกเชื่อว่าเป็นพวกแม่นปืน และมักจะพกปืนยาวไว้ติดตัวเสมอ ผู้รักษาประตู ในสถาบันมีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งจะประจำอยู่ที่ Knight's Gate, Dragon's Entrace และทางเข้า Lair of Liers ทั้งสองด้าน

ในตอนนี้มีความเชื่อว่าผู้รักษาประตู Knight's Gate คนปัจจุบันเป็นชายตาบอดแต่นั้นก็เป็นเพียงข้าวลือเท่านั้น

The Physician

หมอหรือแพทย์ประจำสถาบัน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเหล่านักศึกษาในห้องพยาบาลและอื่นๆ ซึ่งทางสถาบันจะมีหน่วยพยาบาลอยู่แต่จะมีหัวหน้าแพทย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันหัวหน้าแพทย์คือ  Marquess Gresham Harold of house Harrington ผู้ที่มีข่าวลือแปลกๆมากมายเกี่ยวข้องกับการทำงานของเขาเนื่องจากการเป็นศัลยแพทย์

The Marauders

ผู้ส่งสาร หรืออีกชื่อหนึ่งที่บุคลากรเรียกกันคือ 'เจ้าตัวป่วน' เขาคือผู้ที่มักจะคอยดูเรื่องการสื่อสารระหว่างหน่วยงานของสถาบัน รวมไปถึงการดูแลห้องโทรเลขด้วยเช่นกัน บางครั้งพวกเขายังเป็นผู้ที่วิ่งนำสารไปส่งไปมาระหว่างอาคารอีกต่างหาก

The Skeleton Keys

Skeleton Keys หรือ ผู้ถือกุญแจ มีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันติดปากคือ 'กุญแจผี' แท้จริงแล้วเป็นบุคลากร เขาคือผู้ถือแม่พิมพ์กุญแจของทุกห้อง ทุกอาคารของทางสถาบัน ไม่มีห้องใดในสถาบันที่เขาไม่สามารถเข้าได้ ตัวเขานั้นจะไม่ปรากฎตัวออกมาง่ายๆและมีข่าวลือว่าเขาอาศัยอยู่บริเวณคุกใต้ดินของคราวน์เบอร์รินน์อีกด้วย

bottom of page